วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คำให้การและฟ้องแย้ง

คำให้การและฟ้องแย้งคดีจ้างทำของ
คำให้การและฟ้องแย้ง
            ข้อ ๑. จำเลยรับว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยมี.......นาย .ง........เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและมีอำนาจกระทำการแทนโจทก์
            ข้อ ๒. จำเลยขอให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ว่า จำเลยมิได้ปฏิบัติผิดสัญญาจ้างทำ ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๓ แต่อย่างใด กล่าวคือ โจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาจ้างทำอุปกรณ์ฟาสฟูดส์ โดยมีวัตถุประสงค์ในข้อตกลงว่า สิ่งของหรืออุปกรณ์ที่โจทก์รับจ้างทำดังกล่าวนั้นจะต้องถูกต้องตามข้อตกลง และมีสภาพเรียบร้อยอุปกรณ์ทุกชิ้นสามารถทำงานได้ผลตามที่ได้ทำความตกลงไว้ เช่น เครื่องดูดควัน สามารถดูดควันได้ เป็นต้น หากโจทก์ทำการงานที่รับจ้างทำไม่ได้ตามข้อตกลงโจทก์ยินดีชดใช้ค่าเสียหายตามสมควร ปรากฏรายละเอียดตามหมายเหตุท้ายสัญญาจ้างทำ เอกสารท้ายฟ้องกมายเลข ๓ แผ่นที่ ๑ แต่ปรากฏว่าสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่โจทก์จัดทำและนำไปติดตั้งให้แก่จำเลยนั้น มีความชำรุดบกพร่องและผิดตามข้อตกลงในสาระสำคัญหลายประการ เช่น เครื่องดูดควันไม่สามารถดูดควันได้
            ต่อมาจำเลยจึงได้แจ้งให้โจทก์จัดการแก้ไขข้อบกพร่องให้เป็นไปตามข้อตกลง แต่โจทก์ไม่สามารถจัดการแก้ไขได้ จำเลยจึงได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์เพราะสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่โจทก์นำไปติดตั้งนั้นไม่เป็นไปตามข้อตกลงและไม่สามารถใช้ประโยชน์ในกิจการของจำเลยได้ และได้แจ้งให้โจทก์จัดการขนสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่นำไปติดตั้งคืนไป ฉะนั้น โจทก์จึงเป็นฝ่ายปฏิบัติผิดสัญญา และไม่มีสิทธิที่จะต้องคืนเงินมัดจำค่าจ้างที่เหลืออีก ๓๕,๐๐๐ บาท จากจำเลย แต่โจทก์มีหน้าที่ที่จะต้องคืนเงินมัดจำจำนวน ๕,๐๐๐ บาท ให้แก่จำเลยอีกด้วย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายและไม่มีอำนาจฟ้อง
            ข้อ ๓. จำเลยขอให้การต่อสู้ว่า จำเลยยังไม่ได้รับมอบสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่โจทก์กล่าวอ้างตามฟ้องแต่ประการใด เพราะสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่โจทก์นำไปติดตั้งนั้นชำรุดบกพร่องและผิดตามข้อตกลง ดังได้ประทานกราบเรียนมาแล้วตาม ข้อ ๒. ต่อมาจำเลยได้แจ้งให้โจทก์ทำการแก้ไขเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลง โจทก์จึงได้แจ้งแก่จำเลยว่าให้ทดลองใช้สิ่งของหรืออุปกรณ์ดังกล่าวไปก่อน ๑ เดือน โดยยังมิต้องชำระเงินส่วนที่เหลือ แต่ปรากกว่าเมื่อครบกำหนด ๑ เดือนแล้ว โจทก์ก็มิได้ทำการแก้ไขให้เป็นไปตามข้อตกลงได้ จนจำเลยต้องบอกเลิกสัญญาในที่สุด ฉะนั้นโจทก์จึงยังมิได้ส่งมอบและจำเลยยังมิได้รับมอบสิ่งของหรืออุปกรณ์ดังกล่าวตามฟ้อง
            ข้อ ๔. การกระทำของโจทก์ตามข้อ ๒. และข้อ ๓. ดังกล่าวข้างต้น ทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย ดังต่อไปนี้
            ๔.๑..................................................................
            ๔.๒. ค่าเสียหายจากการที่จำเลยได้วางมัดจำไว้กับโจทก์เป็นเงินจำนวน ๕,๐๐๐บาท(ห้าพันบาทถ้วน)
            รวมเป็นเงินค่าเสียหานทั้งสิ้นจำนวน..........บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) จำเลยจึงขอถือเอาคำให้การนี้เป็นฟ้องแย้งของจำเลยต่อโจทก์ และขอศาลได้โปรดพิจารณาพิพากษาและบังคับโจทก์ตามฟ้องแย้งของจำเลยดังต่อไปนี้
๑.     ให้พิพากษายกฟ้องโจทก์
๒.   ให้โจทก์ชำระเงินค่าเสียหายเป็นเงิน............บาท(................)และเงินมัดจำจำนวน ๕,๐๐๐ บาท(ห้าพันบาทถ้วน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น.......บาท(...............)ให้แก่จำเลย พร้อมด้วยแก่เบี้ยในอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีในต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับตั้งแต่วันฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่าโจทก์จะชำระให้แก่จำเลยเสร็จสิ้น
ข้อ ๓. ให้โจทก์จัดการรื้อถอนหรือนำสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่นำมาติดตั้งในร้านของจำเลยออกไปจากร้านของจำเลย และหากโจทก์ไม่จัดการก็ขอให้ศาลได้โปรดมีคำพิพากษาให้จำเลยจัดการให้บุคคลภายนอกทำการดังกล่าวแทนโจทก์ โดยให้โจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น
            ข้อ ๔. ให้โจทก์ชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนจำเลยด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น