วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

กระทำลักษณะใดเป็นความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา
     คำพิพากษาฎีกาที่ 1133/2509  จำเลยได้กระทำชำเราผู้เสียหาย จนของลับของจำเลยได้เข้าไปในของลับของผู้เสียหายราว 1 องคุลีเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการกระทำชำเราสำเร็จตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 276 แล้ว การที่ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่ามีน้ำอสุจิของจำเลยออกมาอยู่ที่ของลับของผู้เสียหายที่ของลับจำเลยนั้นเป็นเรื่องสำเร็จความใคร่แล้วหรือไม่  เป็นอีกส่วนหนึ่งไม่เป็นเหตุให้เห็นว่าจำเลยกระทำชำเราไม่สำเร็จหรือเป็นเพียงขั้นพยายาม

     คำพิพากษาฎีกาที่ 1048/2518  การกระทำชำเราตามกฎหมายจะต้องปรากฏว่าของลับของชาย  ล่วงล้ำเข้าไปในช่องสังวาสหรืออวัยวะสืบพันธุ์ของหญิง การที่จำเลยขืนใจผู้เสียหาย โดยใช้ของลับของจำเลยใส่เข้าไปในทวารหนักของผู้เสียหาย จึงไม่เป็นการกระทำชำเราคงมีแต่ความผิดฐานกระทำอนาจารเท่านั้น

     ร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง  หมายถึงการที่ผู้ร่วมกระทำตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปร่วมกันรุมข่มขืนกระทำชำเราหญิงโดยผลัดกันกระทำชำเราด้วยตนเอง ดังนั้นหากเป็นการที่คนเดียวข่มขืนหลายครั้งหรือคนเดียวข่มขืน แต่มีอีกหลายคนช่วยจับแขนขา เช่นนี้ก็เป็นการกระทำการโทรมหญิง แต่ถ้าเป็นการที่หลายคนโทรมหญิงแล้ว คนอื่นที่ร่วมในการกระทำแม้ไม่ได้ข่มขืนด้วยตนเองก็เป็นความผิดเป็นตัวการโทรมหญิง

     คำพิพากษาฎีกาที่ 4796/2530 แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายก็ตาม แต่การที่จำเลยที่ 1 พาผู้เสียหายไปให้พวกของตนผลัดกันข่มขืนกระทำชำเราและรออยู่จนพวกของตนข่มขืนกระทำชำเราเสร็จแล้วจึงพาผู้เสียหายกลับไปนั้นถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกับพวกกระทำผิดฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง

     คำพิพากษาฎีกาที่ 3007/2532 (ประชุมใหญ่ ) เมื่อจำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายแล้ว พวกของจำเลยได้ผละจากพวกของผู้เสียหายมาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่ออีก แม้พวกของจำเลยจะไม่สามารถสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในอวัยวะของผู้เสียหายได้แต่ก็ลงมือกระทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนถึงขั้นพยายามแล้วการที่จำเลยกับพวกผลัดเปลี่ยนกันกระทำชำเราผู้เสียหายต่อเนื่องกันถือได้ว่าการร่วมกันกระทำชำเราผู้เสียหาย อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง

สรุปแนวคำพิพากษาฎีกา
1.  ผู้กระทำคนเดียว กระทำชำเราหญิงหลายคนไม่เป็นการโทรมหญิง
2.  คนหลายคนจับหญิงไว้ ผู้กระทำชำเราเพียงคนเดียวทุกคนเป็นตัวการแม้ไม่ได้กระทำชำเราหญินั้น หรือผู้กระทำเป็นหญิง ซึ่งไม่สามารถกระทำชำเราได้ ก็ผิดฐานร่วมกันกระทำชำเรา
3.  การโทรมหญิงหรือรุมข่มขืนกระทำชำเรา ผู้ร่วมกระทำตั้งแต่สองคนขึ้นไป ต้องผลัดเปลี่ยนกันกระทำชำเราหญิงคนละครั้ง (ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 3007/2532 ประชุมใหญ่ ) ผู้ร่วมกระทำอีกคนหนึ่งลงมือกระทำการข่มขืนจนถึงขึ้นพยายามแล้ว เป็นการโทรมหญิง

ข้อสังเกต  การโทรมหญิงนอกจากเป็นเหตุเพิ่มโทษสูงขึ้น ตามมาตรา 276 วรรคสอง ยังเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ ตามมาตรา 281

ฎีกา ๑๕๗


. ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีความผิด เช่น จำเลยเป็นปลัดอำเภอ ได้รับคำสั่งจากนายอำเภอโดยชอบให้จัดทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณสัตว์ แล้วเรียกเงินเกินอัตราที่กำหนดไว้ตามกฎหมายเพื่อประโยชน์ตน (.638/2508 ) หรือเจ้าพนักงานมีอำนาจหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีอาญา ในระหว่างสอบสวนจำเลยได้ทำร้ายโจทก์เพราะโจทก์ไม่ยอมรับสารภาพ ไม่ยอมลงชื่อตามที่จำเลยต้องการ (1399/2508) ตำรวจเข้าไปในสำนักค้าประเวณีขณะมีการค้าประเวณีอยู่ ประกาศตนเป็นตำรวจและจับหญิงโสเภณีไป แล้วมอบหญิงโสเภณีให้กับพวกของตนไปเสียโดยมิได้นำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย (.1450/2513) หรือ เจ้าพนักงานตำรวจจับกุม ส. แต่กลับไม่นำส่งพนักงานสอบสวนทันทีโดยไม่ชักช้า แต่กลับยอมให้ ส. แวะพบญาติแล้วเป็นเหตุให้ ส. หลบหนีไป (.2754/2536 ) หรือ พนักงานสอบสวน เอาไปเสียซึ่งคำให้การฉบับเดิมของผู้ต้องหาซึ่งจำเลยมีหน้าที่ปกครองดูแลรักษา โดยเจตนาเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหามิให้ต้องโทษ (ผิดมาตรา ๒๐๐ วรรคแรกด้วย) (.929/2537) หรือ พยาบาลประจำโรงพยาบาล ได้ตรวจชันสูตร พ. ซึ่งถูกข่มขืนกระทำชำเรา ละเว้นไม่ส่งซับน้ำในช่องคลอดของ พ. ไปหาเชื้อของน้ำอสุจิตามระเบียบ และกรอกข้อความลงในรายงานผลการตรวจชันสูตรเอาเอง (.1886/2523) นอกจากนั้น รวมถึงหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วย เช่น ปลัดอำเภอ ไม่มีหน้าที่ในการตรวจรับมอบงานเพราะมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจรับมอบงานการจ้าง แต่เมื่อนายอำเภอได้แต่งตั้งให้จำเลยทำการตรวจสอบผลงานดังกล่าวซึ่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ในทางราชการ จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบผลงานตามที่ได้รับมอบหมายแล้วรายงานให้นายอำเภอทราบ จำเลยทำรายงานเท็จ ( .3215/2538)
. ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ไม่ผิดถ้า การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเฉพาะแต่ตามหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นโดยตรง ตามที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่นั้น ๆ เท่านั้น ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่โดยตรงหรือเป็นการนอกหน้าที่แล้วย่อมไม่ผิดตามมาตรา 157 (.3278/2522) เช่น จำเลย ไม่มีอำนาจหรือหน้าที่ใด ๆ เกี่ยวกับคดีที่คนร้ายลักกระบือของผู้เสียหายที่ 2 และที่ 3 กับการปล่อยคืนรถยนต์ให้แก่ผู้เสียหายที่ 1 การที่จำเลย เป็นตัวการในการเรียกและรับเงินจากผู้เสียหายที่ 1 จึงเป็นเรื่องปฏิบัตินอกหน้าที่

วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554

ผู้ค้าของเก่าต้องขอรับใบอนุญาต

ประกาศอำเภอเมืองอุบลราชธานี
เรื่อง   ให้ผู้ประกอบอาชีพขายทอดตลาดและค้าของเก่า
ตามพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า  พุทธศักราช ๒๔๗๔
ดำเนินการขอรับใบอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย
………….………………..
                                ตามมาตรา ๑๒  แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พุทธศักราช ๒๔๗๔ ได้บัญญัติห้ามมิให้บุคคลใดประกอบอาชีพขายทอดตลาดและค้าของเก่าโดยไม่ได้รับ อนุญาตจากเจ้าพนักงาน                ผู้ออกใบอนุญาต โดยบุคคลใดฝ่าฝืนบทบัญญัติดังกล่าว จะมีโทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน ปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                                ดังนั้น  เพื่อให้การประกอบอาชีพขายทอดตลาดและค้าของเก่าเป็นไปอย่างถูกต้องตาม                   กฎหมาย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จึงขอประกาศ ให้ผู้ประกอบอาชีพขายทอดตลาด ที่ไม่ได้ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและผู้ประกอบอาชีพค้าของเก่าใน ท้องที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี  ที่ยังไม่ได้รับ ใบอนุญาตในปี พ.ศ.๒๕๕๔ ไปยื่นขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตได้ที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองอุบลราชธานี ถนนศรีณรงค์               ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี โทร.๐-๔๕๒๕-๔๐๘๖
                                ทั้งนี้  ผู้ประกอบอาชีพค้าของเก่าประเภทต่อไปนี้ จะต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
                                ๑. ของเก่าประเภทโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ตามกฎหมายว่าด้วย โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
                                ๒. ของเก่าประเภทเพชรพลอย ทอง นาก เงิน หรืออัญมณี
                                ๓. ของเก่าประเภทรถยนต์ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
                                ๔. ของเก่าประเภทอื่น ๆ  เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ , กระดาษ, เศษเหล็ก, ขวด, สแตนเลส, กระสอบ, คอมพิวเตอร์, กล้องถ่ายรูป, เครื่องดนตรี, เครื่องเสียง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ไม้เรือนเก่า, เครื่องหนัง, เครื่องใช้สำนักงาน, นาฬิกา, รถจักรยานยนต์, ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์และรถจักรยานยนต์, ยางรถยนต์, กระทะล้อรถยนต์, แสตมป์, เหรียญ, ธนบัตร, เฟอร์นิเจอร์, ถัง, ของหลุดจำนำ, จักรเย็บผ้า, เครื่องจักรเก่า, พระเครื่อง, พลาสติก  เป็นต้น
                              จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน 
                                                                                ประกาศ        วันที่   ๒๔  มกราคม  ๒๕๕๔



(นายอดุลย์   พลบุตร)
นายอำเภอเมืองอุบลราชธานี
ประทับตราประจำตำแหน่งเป็นสำคัญ

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

ตัวอย่างคำคัดค้านยื่นฟ้องอนาถา

คำร้องคัดค้านขอยื่นฟ้องคดีอย่างอนาถา
           
ข้อ ๑. คดีนี้ศาลได้โปรดมีคำพิพากษาแล้ว ต่อมาจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลจึงส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องและสำเนาอุทธรณ์มาให้โจทก์คัดค้าน และนัดไต่สวนในวันนี้ เวลา ๑๖.๓๐ . ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น
ข้อ ๒ โจทก์ขอคัดค้านการยื่นฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยดังต่อไปนี้
(.) จำเลยคดีนี้มิใช่คนยากจน จนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลได้เพราะ จำเลยได้ประกอบอาชีพค้าขายและมีรายได้จากการประกอบอาชีพทุกวัน นอกจากนั้น
สามีของโจทก์ยังประกอบอาชีพรับจ้างมีรายได้ จำเลยมีทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นอีกมาก ดังที่โจทก์จะนำสืบต่อไปในชั้นไต่สวน
(.) คดีนี้ อุทธรณ์ของจำเลยไม่มีมูลพอที่จะชนะคดีได้และไม่มีเหตุสมควรที่จะยื่นอุทธรณ์ในคดีนี้เพราะพยานหลักฐานของโจทก์รับฟังได้ว่า ที่ดินที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยยื่นอุทธรณ์คดีนี้เพื่อประวิงคดีเท่านั้น
อนึ่ง โจทก์ขอคัดค้านว่า คำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยไม่ได้ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเพราะ ไม่ได้อ้างเหตุว่า จำเลยมีมูลพอที่จะชนะคดีได้และมีเหตุสมควรที่จะยื่นอุทธรณ์ในคดีนี้ คำร้องของจำเลยจึงไม่ชอบ
อาศัยเหตุผลดังที่ได้ประทานกราบเรียนมาขอศาลได้โปรดกรุณามีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย ให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์มาวางศาลภายในเวลาที่ศาลกำหนดด้วย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอศาลได้โปรดอนุญาต
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ลงชื่อ ผู้ร้อง

วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

คดีคลองด่าน (พี่นุ)

"วัฒนา"-10บิ๊กรับเหมาดัง เจอจำคุก3ปี
คดีทุจริตที่ดิน"คลองด่าน" ศาลตั้ง1ล้านให้ประกันตัว
ศาล ตัดสินคดีร่วมทุจริตที่ดินคลองด่านมูลค่า 1.8 หมื่นล้าน พิพากษาจำคุก 3 ปี "วัฒนา" พร้อมกับ 10 จำเลย บิ๊กบริษัทดัง ส่วนอีก 7 ถูกปรับรายละ 6 พันบาท ชี้มีเจตนาทำให้เสียหาย นำผลประโยชน์ไปแบ่งปันกัน ให้ประกันตัวหลักทรัพย์คนละ 1 ล้าน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 1 ศาลแขวงดุสิต ศาลอ่านคำพิพากษาให้จำคุกและปรับนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กับพวกจำเลย ในคดีที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง 1.กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี 2.บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 3.นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 4.บริษัทประยูรวิศว์การช่าง 5.นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัทประยูร วิศว์การช่าง 6.บริษัทสี่แสงการโยธา (1979) 7.นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา หรือเสี่ยสี่ ผู้กว้างขวางในวงการรับเหมาก่อสร้าง 8.บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ 9.นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ 10.บริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 11.นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 12.บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ 13.นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 14.นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 15.นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 16.บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ 17.นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัทปาล์มบีชฯ 18.นายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัทปาล์มบีชฯ และ 19.นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยที่ 1-19 ฐานฉ้อโกงที่ดินและฉ้อโกง กรณีร่วมกันทุจริตจัดซื้อที่ดิน อ.คลองด่าน จ.สมุทร ปราการ 1,900 ไร่ มูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นคลอง ถนนสาธารณะ และป่าชายเลน ก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน โดยให้จำคุกจำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11, 13, 14, 15, 17, 18 และจำเลยที่ 19 คนละ 3 ปี ส่วนจำเลยที่ 2, 4, 6, 8, 10, 12 และ 16 ปรับรายละ 6,000 บาท ส่วน จำเลยที่ 1 ยกฟ้องในชั้นไต่สวน
สำหรับคดีนี้ศาลพิเคราะห์พยาน หลักฐานโจทก์จำเลยแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยที่ 2-19 เชื่อมโยงมีการแบ่งหน้าที่กันทำ กลุ่มหนึ่งเป็นผู้รวบรวมที่ดินนำขายให้แก่โจทก์ อีกกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ก่อสร้างโครงการ ซึ่งมีความสัมพันธ์กัน โดยทราบดีอยู่แล้วว่าที่ดินดังกล่าวออกโฉนดโดยมิชอบแล้วนำมาขายให้กับโจทก์ ใช้ก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านโดยไม่มีบริษัทผู้เชี่ยวชาญร่วม ดำเนินการ มีเจตนาทำให้โจทก์เสียหาย นำผลประโยชน์ไปแบ่งปันกัน พยานหลักฐานรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2-19 ร่วมกันกระทำผิดตามฟ้องอันเป็นความผิดกรรมเดียว จึงพิพากษาดังกล่าว
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ทางญาติจำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11 13-15, 17, 18 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินและเงิน คนละ 1 ล้านบาทขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปลอยตัวชั่วคราวโดยตีราคาประกันคนละ 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ก่อนอ่านคำพิพากษาจำเลยทุกคนเดินทางมา ยกเว้นเพียงนายวัฒนาซึ่งศาลมีคำสั่งให้ออกหมายจับปรับนายประกันไปก่อนหน้า นี้ ในคดีที่นายวัฒนาหลบหนีการรับโทษจำคุก 10 ปี ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจหน้าที่บังคับข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการโดยมิ ชอบ คดีทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11570 มติชนรายวัน  หน้า 1

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

ประกาศวันหยุดประจำปีของบริษัทประจำปี ๒๕๕๔


ประกาศวันหยุดประจำปี 2554
บริษัททยุติธร แอนด์ ทยุติธร จำกัด
ลำดับ
ที่
วัน/เดือน/ปีที่หยุด
หมายเหตุ
1
วันที่ 3 มกราคม 2554
*หยุดชดเชยวันขึ้นปีใหม่
2
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554
*หยุดวันมาฆบูชา
3
วันที่ 6 เมษายน 2554
*หยุดวันจักรี
4
วันที่ 13-15 เมษายน 2554
*หยุดวันสงกรานต์
5
วันที่ 5 พฤษภาคม 2554
*หยุดวันฉัตรมงคล
6
วันที่ 13 พฤษภาคม 2554
*หยุดวันพืชมงคล
7
วันที่ 17 พฤษภาคม 2554
*หยุดวันวิสาขบูชา
8
วันที่ 15 กรกฎาคม 2554
*หยุดวันอาสาฬหบูชา
9
วันที่ 16 กรกฎาคม 2554
*หยุดวันเข้าพรรษา
10
วันที่ 12 สิงหาคม 2554
*หยุดวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ
11
วันที่ 23 ตุลาคม 2554
*หยุดวันปิยมหาราช
12
วันที่ 24 ตุลาคม 2554
*หยุดชดเชยวันปิยมหาราช
13
วันที่ 5 ธันวาคม 2554
*หยุดวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
14
วันที่ 10 ธันวาคม 2554
*หยุดวันรัฐธรรมนูญ
15
วันที่ 12 ธันวาคม 2554
*หยุดชดเชยวันรัฐธรรมนูญ
16
วันที่ 31 ธันวาคม 2554
*วันสิ้นปี